
สูตรขนมสุดฮิต 15 สูตร ทุกเมนูมาแรงจนอยากบอกต่อ เหมาะสำหรับทำเป็นขนมหวานกินเล่นยามว่างสุด ๆ จัดให้เลือก 2 สไตล์ ทั้งขนมไทย หรือเบเกอรี่ หน้าตายั่วยวนน้ำลายใช่ย่อย มือใหม่ก็ทำได้ไม่ยุ่งยากเลย
ขึ้นชื่อว่าเมนูขนมหวานเป็นของสุดโปรดของใครหลาย ๆ คนเลยเนอะ แต่ขนมหวานธรรมดา ๆ หรือจะสู้ขนมหวานอินเทรนด์ในกระแสได้ วันนี้กระปุกดอทคอมขอนำเสนอ 15 สูตรขนมสุดฮิต มีทั้งขนมไทยและเบเกอรี่หลากหลายให้เลือกทำกัน ทุกเมนูขนมหวานน่าหม่ำทั้งนั้น ที่สำคัญวิธีทำไม่ยากอย่างที่เคยคิด ทำเสร็จแล้วอย่าลืมถ่ายรูปแชร์ให้เพื่อน ๆ ได้น้ำลายสอกันนะคะ

1. เต้าหู้เย็นชาเขียว (สูตรใช้ผงวุ้น)
ณ วินาทีนี้ ทั่วบ้านทั่วเมืองต่างรู้จักเต้าหู้เย็น เมนูดังในกระแสกันทั้งนั้น เพื่อน ๆ อยากลองทำของหวานเย็นฉ่ำกินเองที่บ้านใช่ไหมละ แม้หน้าตาจะดูทำยากแต่ขอบอกว่าทำง่ายมาก สูตรนี้ใช้ผงชาเขียวทำให้หน้าตาออกมาสีเขียวอย่างที่เห็น สำหรับคนที่อยากใส่สีสันอื่นก็ตามชอบเลยค่ะ ส่วนเนื้อเต้าหู้แข็งกรุบกรอบคล้ายทานวุ้นกะทิ ทานตอนแช่เย็นยิ่งอร่อย สูตรโดย คุณจุ๋ม จากเพจเฟซบุ๊ก ว่างเป็นเข้าครัว
ส่วนผสม / สิ่งที่ต้องเตรียม
น้ำเต้าหู้ 1 ถ้วย (หรือนมถั่วเหลือง)
นมสด 1 ถ้วย (ถ้าต้องการเติมสีสันอื่น สามารถเลือกใช้น้ำใบเตยคั้น นมสดรสสตรอว์เบอร์รี นมสดรสช็อกโกแลต นมสดรสกาแฟ หรือรสอื่น ๆ ตามชอบ)
ผงชาเขียว 2 ช้อนชา
น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ
ผงวุ้น 2 ช้อนชา
ท็อปปิ้ง เลือกตามชอบ เช่น บลูเบอร์รีสด, เชอร์รี, สตรอว์เบอร์รี, มาร์ชแมลโลว์
วิธีทำ
1. ใส่น้ำเต้าหู้กับนมสดลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟอ่อน ต้มไม่ต้องเดือด
2. ใส่ผงวุ้นลงไปคนให้ละลาย ใส่สีลงไปตามชอบ
3. ใส่น้ำตาลทรายแดง (จะชิมรสชาติก่อนก็ได้ว่าอยากได้หวานมากหรือหวานน้อย เพิ่มน้ำตาลตามชอบ) และเติมผงชาเขียวคนต่อจนน้ำตาลทรายละลาย และผงชาเขียวละลายเป็นเนื้อเดียวกัน
4. ยกลงจากเตา เทใส่ถ้วยพิมพ์ที่เตรียมไว้ รอให้ส่วนผสมเย็นลง นำแช่ตู้เย็น ประมาณ 1 ชั่วโมง
5. เตรียมท็อปปิ้งผลไม้สด เช่น บลูเบอร์รี เชอร์รี สตรอว์เบอร์รี หรืออื่น ๆ ตามชอบ เช่น มาร์ชแมลโลว์
6. เต้าหู้เซตตัวดีนำออกมาแล้วกดเบา ๆ รอบพิมพ์ เขย่าเบา ๆ คว่ำพิมพ์ลงก็หลุดแล้ว
7. ใช้มีดกรีดอย่าให้ลึกจนขาด กรีดให้เป็นตัว V และทานราดด้วยนมข้นหวาน น้ำผึ้ง ซอสช็อกโกแลต หรือทานเปล่า ๆ ก็ได้ค่ะ
น้ำเต้าหู้ 1 ถ้วย (หรือนมถั่วเหลือง)
นมสด 1 ถ้วย (ถ้าต้องการเติมสีสันอื่น สามารถเลือกใช้น้ำใบเตยคั้น นมสดรสสตรอว์เบอร์รี นมสดรสช็อกโกแลต นมสดรสกาแฟ หรือรสอื่น ๆ ตามชอบ)
ผงชาเขียว 2 ช้อนชา
น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ
ผงวุ้น 2 ช้อนชา
ท็อปปิ้ง เลือกตามชอบ เช่น บลูเบอร์รีสด, เชอร์รี, สตรอว์เบอร์รี, มาร์ชแมลโลว์
วิธีทำ
1. ใส่น้ำเต้าหู้กับนมสดลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟอ่อน ต้มไม่ต้องเดือด
2. ใส่ผงวุ้นลงไปคนให้ละลาย ใส่สีลงไปตามชอบ
3. ใส่น้ำตาลทรายแดง (จะชิมรสชาติก่อนก็ได้ว่าอยากได้หวานมากหรือหวานน้อย เพิ่มน้ำตาลตามชอบ) และเติมผงชาเขียวคนต่อจนน้ำตาลทรายละลาย และผงชาเขียวละลายเป็นเนื้อเดียวกัน
4. ยกลงจากเตา เทใส่ถ้วยพิมพ์ที่เตรียมไว้ รอให้ส่วนผสมเย็นลง นำแช่ตู้เย็น ประมาณ 1 ชั่วโมง
5. เตรียมท็อปปิ้งผลไม้สด เช่น บลูเบอร์รี เชอร์รี สตรอว์เบอร์รี หรืออื่น ๆ ตามชอบ เช่น มาร์ชแมลโลว์
6. เต้าหู้เซตตัวดีนำออกมาแล้วกดเบา ๆ รอบพิมพ์ เขย่าเบา ๆ คว่ำพิมพ์ลงก็หลุดแล้ว
7. ใช้มีดกรีดอย่าให้ลึกจนขาด กรีดให้เป็นตัว V และทานราดด้วยนมข้นหวาน น้ำผึ้ง ซอสช็อกโกแลต หรือทานเปล่า ๆ ก็ได้ค่ะ

2. เต้าหู้เย็นชาเขียวน้ำแข็งไสนมสด (สูตรใช้เจลาติน)
เต้าหู้เย็นสูตรนี้น่าสนใจมากเลยทีเดียว นอกจากจะเป็นเต้าหู้เย็นที่ใช้เจลาตินที่ทำให้เนื้อเต้าหู้เย็นมีความเหนียวหนึบ และอร่อยกว่าการใช้ผงวุ้นแล้ว ยังเสิร์ฟพร้อมกับน้ำแข็งไสเกล็ดหิมะนมสดอีกด้วย เพิ่มความอร่อยสองต่อ สูตรจาก คุณ Rin's Cookbook (#rinscookbook)
ส่วนผสม น้ำแข็งไสนมสด
นมสด 1 ถ้วย
น้ำเปล่า 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
ส่วนผสม เต้าหู้เย็น (ประมาณ 3 ถ้วย)
น้ำเต้าหู้แช่เย็น 1 ถ้วย
ผงเจลาติน 2 1/2 ช้อนชา (หรือเจลาตินชนิดแผ่น)
นมสด 1 ถ้วย
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
ผงชาเขียวมัทฉะ 2 1/2 ช้อนโต๊ะ
นมข้นหวาน 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำร้อนจัด 2 ช้อนโต๊ะ
ถั่วแดง
ผลไม้ตามชอบ เช่น องุ่น, มะเดื่อฝรั่ง, กีวี, แคนตาลูป, สตรอว์เบอร์รี และกล้วยหอม
นมสดสำหรับราดหน้า
หมายเหตุ : เต้าหู้เย็นสูตรนี้ใช้เจลาติน เพราะจะทำให้ได้เนื้อเต้าหู้เย็นที่เหนียวหนึบ ยืดหยุ่น และเด้งดึ๋ง
วิธีทำ น้ำแข็งไสนมสด
ผสมนมสด น้ำตาลทราย และน้ำเปล่าให้เข้ากันคนไปเรื่อย ๆ จนกว่าน้ำตาลทรายละลาย จากนั้นเทใส่ที่ทำน้ำแข็ง นำไปแช่ช่องแช่แข็งประมาณ 4 ชั่วโมงหรือข้ามคืน
วิธีทำเต้าหู้เย็น
วิธีทำเต้าหู้เย็น
1. โรยผงเจลาตินลงในน้ำเต้าหู้เย็นจัด ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที
2. ละลายผงชาเขียวกับน้ำร้อนจัดคนจนละลายเป็นน้ำ
3. หลังจากพักเจลาตินครบ 10 นาทีแล้ว (เจลาตินจะเริ่มย่นและดูดซึมน้ำ) ใช้ช้อนคนให้เข้ากันจนเจลาตินจมลงด้านล่างแล้วพักทิ้งไว้อีก 5 นาที
4. เทส่วนผสมเจลาตินที่พักไว้ลงในหม้อ ตามด้วยน้ำตาลทราย นมข้นหวาน และชาเขียวละลายน้ำคนให้เข้ากันแล้ว เติมนมสดลงไปคนให้ทุกอย่างเข้ากัน เปิดไฟกลาง หมั่นคนผสมไปทางเดียวกันตลอดเวลา ประมาณ 10 นาที รอจนเริ่มมีฟอง (ระวังอย่าให้เดือด) ปิดไฟ
5. เทส่วนผสมลงกรองด้วยกระชอนตาถี่แล้วพักทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที รอให้ส่วนผสมอุ่นลง เทส่วนผสมเต้าหู้เย็นใส่ชาม (ถ้ามีฟองอากาศให้ใช้ไม้จิ้มออก) รอจนอุ่นก่อนแล้วนำเข้าตู้เย็นประมาณ 2 ชั่วโมง
6. นำก้อนน้ำแข็งไสไปปั่นจนกลายเป็นเกล็ดหิมะ ตักใส่ลงในจานสำหรับเสิร์ฟ (ระวังละลาย)
7. ใช้มีดบาง ๆ จุ่มลงในน้ำอุ่นแล้วแซะตรงขอบพุดดิ้งเบา ๆ แล้วคว่ำเต้าหู้เย็นชาเขียวลงไปข้างบน บั้งเป็นแฉกให้สวยงาม จัดเสิร์ฟคู่กับท็อปปิ้งตามชอบ ตบท้ายด้วยราดนมสด

3. เต้าหู้เย็น (สูตรใช้นมสด)
เต้าหู้เย็นสูตรนี้ทำง่ายมาก แถมยังใช้นมสดแทนน้ำเต้าหู้ หาซื้อง่าย ๆ เลือกใส่สีสันได้ตามชอบ รสสัมผัสนิ่ม ๆ หยุ่น ๆ กลิ่นหอม กินเย็น ๆ อร่อยสุดฟิน วันหยุดว่าง ๆ ทำเต้าหู้เย็นจัดเสิร์ฟพร้อมผลไม้ หรือธัญพืชก็ได้ตามชอบ บอกได้คำเดียวว่าเริด สูตรโดย คุณโจนส์เปลี่ยนใจ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
นมสด 2 ถ้วย (หรือน้ำเต้าหู้)
นมข้นหวาน 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำหวานเฮลซ์บลูบอย กลิ่นสละ (ใส่จนได้สีที่ชอบ)
ผงวุ้น 2 1/2 ช้อนชา (ราคา 30 บาท)
ส่วนผสม ท็อปปิ้ง
กีวี หั่นเต๋า
ส้ม แกะเป็นกลีบ
กล้วยหอม หั่นแว่น
แคนตาลูป หั่นชิ้นพอดีคำ
เยลลี่ (ตามชอบ)
วิธีทำ

4. วุ้นกะทิ
อากาศร้อนแบบนี้ทำวุ้นกะทิแช่เย็น ๆ คลายร้อนกันหน่อยดีกว่า สูตรนี้เป็นวุ้นกะทิมะพร้าวอ่อน เพิ่มสีสันสดใสชวนหม่ำ รสหวานหอม กรอบ ทำเก็บไว้กินเพิ่มความชื่นใจระหว่างวันได้สบาย ที่สำคัญยังทำเป็นเมนูขนมหวานสำหรับเด็ก ๆ ได้อีกด้วย
ผงวุ้น 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า
หัวกะทิ 2 1/2 ถ้วย
ใบเตย หั่นเป็นท่อน 2-3 ใบ
น้ำตาลทรายขาว 1/2 ถ้วย
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
ส่วนผสม วุ้นสี
ผงวุ้น 1 ช้อนชา
น้ำเปล่า
น้ำตาลทรายขาว 1/2 ถ้วย
สีผสมอาหาร 1 ช้อนชา
พิมพ์วุ้นซิลิโคนรูปดอกไม้
วิธีทำ

5. ขนมโตเกียว
อยากย้อนวันวานในวัยเด็กด้วยการกินขนมโตเกียวแป้งบางกรอบ ใส่ไส้กรอกและหมูสับสักชิ้นไหมคะ ทำง่าย ๆ แค่มีกระทะเทฟลอนเท่านั้น ที่สำคัญยังตอกไข่นกกระทาลงไปเพิ่มได้อีกด้วย หรือใครอยากจะใส่ไส้แยม ไส้ช็อกโกแลตโรยอัลมอนด์ หรืออื่น ๆ ก็ได้ตามชอบ
ส่วนผสม แป้งโตเกียว
แป้งสาลีอเนกประสงค์
เบกกิ้งโซดา
ผงฟู
น้ำตาลทราย
ไข่ไก่ 1 ฟอง
น้ำเปล่า (หรือน้ำปูนใส)
น้ำผึ้ง
ส่วนผสม ไส้กรอกและไส้หมูสับ
เนื้อหมูสับ
รากผักชี
กระเทียม
ซอสหอยนางรม
ไส้กรอก (ตามชอบ)
วิธีทำแป้งโตเกียว
ผสมแป้งสาลีอเนกประสงค์กับเบกกิ้งโซดา ผงฟู และน้ำตาลทรายคนให้เข้ากันเล็กน้อย เติมน้ำผึ้ง น้ำเปล่า และตอกไข่ไก่ใส่ลงไป คนให้เข้าด้วยกันจนเป็นเนื้อเดียว (แบ่งส่วนผสมแป้งใส่ขวดเล็กน้อยเตรียมไว้สำหรับบีบเป็นเส้น ๆ ด้วย) พักส่วนผสมแป้งไว้สักครู่
วิธีทำไส้โตเกียว
เตรียมเครื่องสำหรับผัดไส้หมู โขลกรากผักชีกับกระเทียมเข้าด้วยกัน พักไว้ก่อน
ผัดไส้กรอก นำไส้กรอกลงไปผัดในกระทะให้พอร้อนแล้วตักขึ้นพักไว้
ผัดส่วนผสมไส้หมูสับ นำเครื่องที่โขลกไว้ลงไปผัดในกระทะ ตามด้วยหมูสับ ผัดจนหมูสุกและหอม ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม ผัดให้เครื่องปรุงกับหมูสับเข้ากันอีกครั้ง ตักใส่ถ้วย เตรียมไว้
ทอดขนมโตเกียว โดยนำกระทะเทฟลอนขึ้นตั้งไฟอ่อน ๆ ตักส่วนผสมแป้งหยอดลงในกระทะ
ละเลงแป้งให้เป็นแผ่นวงรี บีบแป้งเป็นเส้น ๆ ลงไปด้านบนให้สวยงามตามชอบ
ใส่ไส้โตเกียว พอแป้งเริ่มสุกและเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองแล้ว วางไส้กรอกและหมูสับที่ผัดไว้ลงไปบนแป้ง แล้วม้วนให้สวยงาม พร้อมรับประทาน

6. ขนมตาล
ขนมตาล ขนมไทยสีเหลืองสด มีส่วนผสมจากเนื้อลูกตาลทำให้มีกลิ่นหอมและสีเหลืองสวย โรยหน้าด้วยมะพร้าวขูดเพิ่มอีกนิดยิ่งทำให้อร่อยมากยิ่งขึ้น สำหรับใครที่อยากทำขนมตาลไว้ทานหรืออยากทำขายต้องติดตามสูตรจากด้านล่างเลยค่ะ สูตรจากนิตยสาร Health & Cuisine ที่ได้ประยุกต์มาจากสูตรดั้งเดิมให้ทำได้ง่ายขึ้น มือใหม่ก็สามารถลองทำได้ ลองมาดูส่วนผสมและวิธีทำกันค่ะ
ส่วนผสม
น้ำตาลทราย 400 กรัม
กะทิ 3 ถ้วย
เนื้อลูกตาลสุก 350 กรัม
แป้งข้าวเจ้า 500 กรัม
ผงฟู 1 ช้อนโต๊ะ
มะพร้าวทึนทึกขูดเส้นเล็ก คลุกเกลือเล็กน้อย สำหรับโรยหน้า 2 ถ้วย
วิธีทำ
1. ละลายน้ำตาลทรายในกะทิ เติมเนื้อลูกตาลลงไปคนให้เข้ากัน จากนั้นใส่แป้งข้าวเจ้าและผงฟูลงไป คนให้เข้ากันจนเนียน
2. กรองส่วนผสมด้วยผ้าขาวบาง พักไว้ประมาณ 10 นาที หรือจนส่วนผสมขึ้นฟู
3. ใส่น้ำในลังถึง ตั้งไฟปานกลาง เรียงถ้วยตะไลลงไป ตักส่วนผสมยอดลงในถ้วยตะไลจนเต็มถ้วย โรยด้วยมะพร้าวทึนทึก นึ่งบนน้ำเดือดประมาณ 15-20 นาที หรือจนกระทั่งสุก ยกลงจากเตา พักให้เย็นแซะออกจากถ้วย พร้อมเสิร์ฟ

7. ขนมชั้น
ขนมชั้น ขนมไทยกินเล่นมีหลายชั้น เนื้อเหนียวนุ่ม รสชาติมันหวานหอมกลิ่นใบเตย หน้าตาของขนมชั้นมีทั้งแบบชิ้นสี่เหลี่ยมเป็นชั้น ๆ และแบบที่เป็นรูปดอกไม้ ส่วนผสมมีไม่กี่อย่างแต่ขั้นตอนการทำต้องใช้ความอดทนเสียหน่อย รับรองว่าทำเสร็จจะต้องภูมิใจ และกินอิ่มจุใจเลยล่ะ สูตรจาก คุณ RinS Cook Book
น้ำตาลทราย 2 1/2 ถ้วย
น้ำกะทิ 4 ถ้วย
แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
แป้งมันสำปะหลัง 1/2 ถ้วย
แป้งท้าวยายม่อม 1 1/2 ถ้วย (หรือแป้งถั่วเขียว)
น้ำใบเตยคั้นเข้มข้น 1/2 ถ้วย
น้ำหอมกลิ่นมะลิผสมน้ำ 1/2 ถ้วย
ถาดหรือพิมพ์สี่เหลี่ยมสำหรับนึ่งขนม (ขนาด 10x10 นิ้ว หรือ 8x8 นิ้ว)
วิธีทำ


























8. ขนมครกใบเตย
ขนมครกใบเตย หรือขนมครกสิงคโปร์ ขนมหวานเหนียวหนึบ สีสันสดใส ปัจจุบันหาทานยากเหมือนกันนะคะ ถ้าอย่างนั้นมาทำทานเองดีกว่า ไม่จำเป็นต้องมีเตาสำหรับทำขนมครกใบเตยโดยเฉพาะ ใช้เตาขนมครกธรรมดา ๆ ก็ทำได้ หยอดแป้งใบเตยแล้วแคะเพลิน ๆ สนุกสนานจริงเชียว สูตรโดย เฟซบุ๊ก พาทำ พาทาน






































9. ขนมกล้วย
ขนมกล้วย ขนมไทยห่อใบตอง รสชาติหวานหอมกินง่าย มีส่วนผสมของกล้วยน้ำว้า รสสัมผัสเนียนเหนียว เคี้ยวหนุบหนับ รสชาติหวานกำลังดี และหอมกลิ่นกล้วย ส่วนผสมไม่เยอะ แถมต้นทุนต่ำแต่ทำได้ปริมาณเยอะ ห่อใบตองชิ้นเล็กหรือใหญ่ได้ตามชอบ ถ้าไม่ใช้ใบตองก็ใช้ถ้วยตะไลแทนได้เหมือนกัน


































10. ขนมปุยฝ้าย
ขนมปุยฝ้าย ขนมไทยที่ขึ้นชื่อเรื่องสีสันสวยงามชวนกิน แถมรสชาติยังนุ่มเบาฟูแทบละลายในปาก หอมกลิ่นมะลิ หรือกลิ่นนมแมวอีกต่างหาก แต่น่าเสียดายที่มักขายในช่วงเทศกาลตรุษจีน ถ้าหากวันปกติธรรมดาจะหากินก็ยากเต็มที ถ้าอย่างนั้นลองมาทำกินเองเลยดีกว่า สูตรจาก เฟซบุ๊ก Rin Silpachai








































11. บลูเบอร์รีชีสพาย
บลูเบอร์รีชีสพาย สูตรเบเกอรี่สุดฮิต ราดซอสบลูเบอร์รีฉ่ำ ๆ รสชาติเปรี้ยวอมหวาน กินเท่าไรก็ไม่เลี่ยน ไม่ต้องใช้เตาอบด้วยนะ จะกินหลังทำเสร็จใหม่ ๆ หรือหลังจากแช่เย็นก็อร่อยค่ะ แล้วแต่ชอบเลย














































12. คัสตาร์ดคาราเมล
คัสตาร์ดคาราเมล เมนูเบเกอรี่สุดฮิต เนื้อนุ่มเด้งไม่มีกลิ่นคาว กลิ่นคาราเมลหอมเชียว ทำง่าย ๆ ไม่ต้องอบ ไม่ต้องนึ่ง เอาเข้าตู้เย็นรอเวลาให้คัสตาร์ดเซตตัวประมาณ 1/2 ชั่วโมง เพียงเท่านี้ก็ได้กินคัสตาร์ดเนื้อนุ่มสมใจแล้ว สูตรจาก คุณเชฟตั๋น สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม



หมายเหตุ : ถ้าอยากให้มีรสเค็มใส่เกลือได้ แต่ใส่แค่ปลายช้อนชาเท่านั้น








































13. เค้กช็อกโกแลตไมโครเวฟ






































14. ฮันนี่โทสต์ (สูตรใช้กระทะ ไม่ต้องอบ)
กลายเป็นขนมหวานอันโด่งดังแห่งยุคนี้ไปแล้วกับ ฮันนี่โทสต์ เบเกอรี่ยอดฮิต เห็นจากตามร้านกาแฟ หรือร้านขนมก็มีเมนูนี้ให้สั่งกินเกือบทุกร้าน แต่ราคาทำเอาเหงื่อตกได้เหมือนกัน สำหรับคนอยากทำทานเองแวะเวียนเข้ามาจดสูตรได้เลย ไม่ต้องใช้เตาอบ แค่มีกระทะก็พอ หน้าตาออกมาดูดี การใช้กระทะทำให้ได้ขนมปังที่กรอบอร่อยกว่าเดิมอีกด้วย สูตรจาก คุณสมาชิกหมายเลข 2266695 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

































15 เค้กกล้วยหอม
แค่เอ่ยถึงชื่อเค้กกล้วยหอมต่อมน้ำลายก็เริ่มทำงานแล้ว เคยไหมที่ซื้อมากินเจอเนื้อหยาบกินแล้วติดคอ ลองมาทำเองง่าย ๆ ดีกว่ากับเค้กกล้วยหอมสูตรเด็ด ชุ่มฉ่ำเนย แถมยังได้รสชาติกล้วยหอมเน้น ๆ เต็มคำ ทำง่าย ๆ ยิ่งถ้าเอาไปแช่เย็นยิ่งอร่อยเหาะเชียวล่ะ สูตรจาก คุณ MaShi BBJ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม แค่นึกถึงก็อยากกินแล้ว
























แจกฟรี 15 สูตรขนมสุดฮิตที่มีให้เลือกสรรทั้งขนมไทยและเบเกอรี่ แต่ละสูตรมาพร้อมวิธีทำเป๊ะ ๆ และเคล็ดลับเด็ด ๆ อีกเพียบ ใครใคร่อยากทำ… ก็ทำ ใครใคร่อยากทำขาย… ก็ทำ ใครใคร่อยากให้คุณแฟนทำให้ทานก็ต้องขอร้องกันเองนะคะ
ที่มา:Kapook.com
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น